Smart
TV / Internet TV โดยทั่วไปคือทีวีที่ "ฉลาด" มากขึ้นนั่นเอง
ด้วยความสามารถของตัวเครื่อง ( Spec ) ที่สูงมากขึ้น
สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่น ( โปรแกรม ) ได้หลากหลาย
สามารถเชื่อมต่อเข้าใช้งานในโลกออนไลน์ Internet อย่างการใช้
Web Browser , Social Network และอื่นๆ ตามฟังก์ชั่นของ
Smart TV / Internet TV แต่ละรุ่น
ในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีของ TV
นั้นพัฒนาไปไกลมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ LCD TV , LED
TV , PLASMA TV เชื่อว่าหลายๆท่านคงได้พบเห็นตามร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้ากันเยอะแล้ว
และในปัจจุบันนี้ทีวีจะไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือที่เอาไว้รับชมรายการโทรทัศน์หรือดูหนังเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
แต่ยังก้าวเข้าสู่โลกของการเชื่อมต่ออย่าง " Internet " การใช้แอพพลิเคชั่นที่หลากหลายช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน
ความสามารถในการเล่นเกมส์ การจองตั๋วภาพยนต์ และอื่นๆอีกมากมาย
ทุกอย่างรวบรวมไว้แค่ปลายนิ้วสัมผัส
Smart
TV คืออะไร ?
ก่อนจะพูดถึงคำว่า " Smart TV " ผมขอยกตัวอย่างไปถึงคำว่า Smart ที่อยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุด เพื่อให้เข้าใจกันได้ง่ายขึ้น นั่นก็คือ " Smart Phone " ที่ทุกท่านรู้จักกันดีนั่นเอง เริ่มจากเมื่อก่อนนี้ โทรศัพท์มือถือก็มีความสามารใช้รับสายโทรเข้าเพียงอย่างเดียว แต่ในปัจจุบันก็มีโทรศัพท์มือถือที่มีความสามารถเพิ่มมากขึ้น ทั้งกล้องถ่ายรูป เครื่องเล่นเพลงต่างๆ เชื่อมต่อกับ Internet ดูคลิปวีดีโอ ลงแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมอย่างหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น iOS ของ Apple หรือ Android จาก Google นั่นคือที่มาของคำว่า " Smart Phone "
กลับมาถึงทางด้าน " Smart
TV " ก็เช่นเดียวกันครับ
เมื่อก่อนทีวีที่ใช้กันตามบ้านก็มีการใช้งานเพียง ดูละคร ดูหนัง ดูข่าว เท่านั้น
ยังไม่มีฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้หลากหลายต้องพึ่งแหล่งข้อมูลจากภายนอกเพียงอย่างเดียวในการแสดงผลเช่น
เครื่องเล่น DVD เครื่องเกมส์ Console ต่างๆ แต่ในปัจจุบันกล่าวได้ว่าเป็นทีวีที่ "ฉลาด" มากขึ้นนั่นเอง
ความสามารถของตัวเครื่องสูงมากขึ้น สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นได้หลากหลาย
โดยส่วนใหญ่แล้วความสามารถทั้งหมดจะใช้งานได้ด้วยการท่องไปในโลกออนไลน์
แต่ก็ไม่ได้จำกัดแค่การเชื่อมต่อ Internet เพียงอย่างเดียว
ยังรวมไปถึงการใช้งานอื่นๆเช่นการเล่นเกมส์ ( โดยไม่ต้องเชื่อมต่อ Internet
) การลงแอพพลิเคชั่นต่างๆ มาใช้งาน
ซึ่งในแต่ละแบรนด์จะมีความสามารถในการใช้งานและชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป ล่าสุดในปี
2012 บางยี่ห้อเช่น Samsung ยังเพิ่มความสามารถในการควบคุมทีวีให้เหนือชั้นคือการสั่งงานด้วย "เสียง"
, "ท่าทาง" และระบบจดจำใบหน้า
ผมขอแยกไว้ตามนี้ครับ
Android TV ขอเพิ่มเติมเกี่ยว Android TV กันบ้างครับ
ผมคิดว่าหลายๆท่านน่าจะรู้จักระบบปฏิบัติการณ์นี้กันพอหอมปากหอมคอ
ซึ่งปกติแล้วเจ้าระบบนี้จะโลดแล่นอยู่บน Smart Phone และ
Tablet มากกว่า แต่ปัจจุบันมีทีวีที่จับเอา OS นี้มายัดลงไปก็คือ Provision รุ่น ED7 และ Polytron รุ่น H12A ซึ่งในอนาคตก็อาจจะมีเพิ่มเติมอีกก็เป็นได้
โดยความสามารถก็จะคล้ายกับในมือถือครับ คือการลงแอพพลิเคชั่นต่างๆมาใช้งาน
แต่ด้วยข้อจำกัดบางประการเช่นบางแอพต้องใช้เบอร์โทรศัพท์ในการลงทะเบียนเล่นก็ไม่สามารถทำได้
Smart
TV , Internet TV นั้น ย่อมต้องการ Internet
เข้ามาเชื่อมต่อเพื่อการใช้งานอัพเดทข้อมูลข่าวสารในโลกออนไลน์
การใช้งานเว็บบราวเซอร์ หรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาใช้งานในตัวเครื่อง
ซึ่งทีวีแต่ละรุ่นก็มีการเชื่อมต่อไม่เหมือนกัน
มาดูกันครับว่าสามารถเชื่อมต่อได้อย่างไรบ้าง
ประเภทของการเชื่อมต่อ
Internet ของ Smart TV ,
Internet TV แบ่งได้ 3
ประเภทก็คือ
1.
เชื่อมต่อผ่านสาย LAN
(
Wired - ใช้สาย )
2.
เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi Adapter USB ( Wireless - ไร้สาย )
3.
เชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi Built-in ในตัวเครื่อง
ส่วนมากจะมีในเฉพาะรุ่นสูงๆเท่านั้น ( Wireless - ไร้สาย
)
Application
on Smart TV : สำหรับทีวีบางรุ่นนั้นจะมีความสามารถในการติดตั้งใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆได้
เช่น Samsung
/ LG / Philips ในจุดนี้เองท่านที่เคยใช้งาน Smart Phone
ทั้ง Android หรือ iOS จะคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะว่าใช้หลักการเดียวกัน
คือเมื่อเราต้องการใช้งานตัวไหนก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจาก
Server กลางของแต่ละค่ายได้ทันที
และที่สำคัญคือไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
แอพพลิเคชั่นบางชนิดเมื่อดาวน์โหลดมาแล้ว
การใช้งานในครั้งต่อไปก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อ Internet อีก
เช่น เกมส์ต่างๆ แต่สำหรับรุ่นที่ไม่สามารถเข้าไปดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้
ก็สามารถอัพเดทผ่านทางเฟิร์มแวร์ของตัวเครื่องได้เช่นกัน (
วิธีการอัพเฟิร์มแวร์ก็ง่ายมาก เพียงแค่เชื่อมต่อ Internet ไว้และไปที่เมนูอัพเดท ซอฟแวร์ ในการตั้งค่าทีวี ใช้เวลาไม่เกิน
5 นาที ) ส่วนประเภทของแอพพลิเคชั่นต่างๆผมขอแบ่งออกเป็น
2 ส่วนก็คือ
1.
Local Content : คือแอพพลิเคชั่นต่างๆที่เป็นของคนไทย ภาษาไทย
ใช้งานได้อย่างสะดวกเช่น MTHAI , Major Cineplex , SF Cinema , Traffy ,
Nation Channel
2. Global Content : คือแอพพลิเคชั่นที่เป็นสากลใช้กันทั่วโลก ยกตัวอย่างเช่น Youtube , Facebook , Skype
ท่องเว็บไซต์ต่างๆไปพร้อมกับ Web
Browser : อีกหนึงความสามารถของ Smart
TV , Internet TV นั่นก็คือ การเข้าเว็บไซต์ต่างๆได้อย่างอิสระ
เสมือนว่าเราเปิดจากคอมพิวเตอร์เลยทีเดียว โดยจะไม่ต้องเสียเวลาเชื่อมต่อให้วุ่นวาย
แต่ว่าข้อจำกัดอย่างการพิมพ์ภาษาไทย ต้องใช้อุปกรณ์ควบคุมอื่นเข้ามาเป็นตัวช่วย
ซึ่งผมจะอธิบายในส่วนต่อไปครับ และการแสดงผลอย่าง Flash หรือ
Java Script ก็ทำได้ค่อนข้างสมบูรณ์ ( ยกเว้นบางรุ่นเท่านั้น
ซึ่งในอนาคตอาจจะมีเฟิร์มแวร์ออกมาช่วยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น )
การควบคุม Smart
TV , Internet TV ในรูปแบบต่างๆ
มาต่อกันที่ส่วนของการควบคุมกันครับ หลายๆท่านอาจจะยังสงสัยว่า " เอ๊ะ !
ฟังก์ชั่นของทีวีนั้นมีเยอะมาก แต่ปุ่มในรีโมทมันเป็นแค่ตัวเลข
และปุ่มทิศทางเท่านั้น เวลาพิมพ์จะสะดวกหรือเปล่า "
จริงๆแล้วการควมคุมให้ง่ายขึ้นก็เป็นเรื่องที่ทางแต่ละยี่ห้อต้องพยายามปรับตัวเข้าหาผู้บริโภคอย่างเราๆกันให้มากที่สุด
เพื่อให้มีความสะดวกสบายในการใช้งาน
เพราะความยากง่ายในการควบคุมทีวีก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยตัดสินใจเลือกซื้อ
Smart
TV เช่นกัน
1. ควบคุมจากรีโมททีวี : โดยปกติแล้วทุกยี่ห้อจะคล้ายๆกันทั้งหมด อาจจะแตกต่างกันในด้านการวางตำแหน่งและดีไซน์ ที่ขาดไม่ได้ก็คือ ปุ่มควบคุมทิศทาง จะใช้ในการเลื่อนตำแหน่งไปยังส่วนที่ต้องการ และปุ่ม OK เพื่อใช้เลือก วิธีการพิมพ์ก็จะทำได้แค่ "ภาษาอังกฤษ" เท่านั้น โดยใช้ปุ่มตัวเลขเป็นแป้นคีย์บอร์ด ( เช่นเลข 2 บนรีโมทจะมี A B C ถ้าต้องการพิมพ์ C ให้กดเลข 2 จำนวน 3 ครั้ง )
2.
ควบคุมจากอุปกรณ์เสริมเช่น เมาส์และคีย์บอร์ด :
ในจุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์ต่างๆ
ว่าจะสามารถพัฒนาตัวทีวีให้รองรับกับคีย์บอร์ดและเมาส์ได้หรือไม่
โดยวิธีการเชื่อมต่อจะทำผ่านช่อง USB 2.0 เท่านั้น
ซึ่งจะเพิ่มความสะดวกสบายในการพิมพ์ตัวอักษร ( วิธีการเปลี่ยนภาษาคือ (ALT+
<- ) หรือ ALT พร้อมกับปุ่มลูกศรขวามือครับ
3. ควบคุมจาก Application บน Smart Phone : สำหรับวิธีนี้ต้องการ Smart Phone รุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Android หรือว่า iOS ก็สามารถเข้าไปค้นหา แอพพลิเคชั่น รีโมท จากทาง Android Market หรือ App Store ได้ฟรี ข้อดีคือจะทำให้สามารถพิมพ์ " ภาษาไทย " ได้ และมีความคล่องตัวในการใช้งานมาก โดยการเชื่อมต่อนั้นจะต้องเชื่อมต่อผ่านวง LAN เดียวกันกับตัวทีวีด้วยครับ
4.
การควบคุมด้วยเสียง / ท่าทาง / ระบบจดจำใบหน้า ( Samasung
ES8000 , ES7500 , E8000 ) : ถือเป็นทีวีรุ่นแรกที่บุกเบิกคำสั่งนี้ครับ
ทำให้การควบคุมทีวีสะดวกกว่าที่เป็นอยู่
รวมถึงนำเอาไปประยุกต์ใช้กับแอพพลิเคชั่นต่างๆได้อีกด้วย
น.ส.ณัฐกฤตา เจริญทรัพย์มณี ชั้น ม.5/8 เลขที่ 6